รู้ทัน COVID-19 ในผู้ป่วยเบาหวาน รู้ทัน COVID-19 ในผู้ป่วยเบาหวาน
โรค COVID-19 เกิดจากเชื้อไวรัส SARS-CoV2 (Severe acute respiratory syndrome coronavirus 2) อาการแสดงของผู้ที่ติดเชื้อกว่า 80% คือไม่มีอาการ หรือมีอาการไม่รุนแรงเหมือนไข้หวัดทั่วไป อีก 20% จะมีอาการรุนแรง ปอดอักเสบเสียชีวิต โดยอัตราการเสียชีวิตอยู่ที่ 2.3% ซึ่งจากการศึกษาพบว่า โรคเบาหวานทำให้มีอัตราการเสียชีวิตเพิ่มเป็น 7.3% หรือมากกว่า 3 เท่า และยังเพิ่มความเสี่ยงในการอยู่ในหอผู้ป่วยวิกฤตมากกว่า 2 เท่า ผู้ป่วยเบาหวานที่ติดเชื้อจะมีอาการรุนแรงหรือมีภาวะแทรกซ้อนที่รุนแรงกว่าผู้ที่ไม่ได้เป็นเบาหวาน นอกจากกลไกจากระบบภูมิคุ้มกันที่ลดลงในผู้ป่วยเบาหวานแล้ว อาจจะมีความเกี่ยวข้องกับเอนไซม์บนผิวเซลล์ที่ชื่อว่า Angiotensin-converting-enzyme 2 (ACE2) ซึ่งพบว่าเป็นตัวจับกับผิวของไวรัสเข้าในเซลล์ร่างกาย โดยพบ ACE2 ที่อวัยวะต่างๆ เช่น ที่ ปอด หัวใจ ตับ ไต รวมถึงที่เบต้าเซลล์ของตับอ่อนที่ทำหน้าที่หลั่งอินซูลิน ดังที่มีข้อสังเกตว่าผู้ป่วยเบาหวานที่ติดเชื้อจะมีระดับน้ำตาลที่สูง มีการใช้อินซูลินที่มากกว่าปกติได้ รวมทั้งพบว่าเกิดภาวะน้ำตาลร่วมกับคีโตนในเลือดสูง (DKA) ได้บ่อย ส่วนความเสี่ยงต่อเกิดเบาหวานในอนาคต ต้องรอการศึกษาต่อไป
การศึกษาที่ทำเฉพาะในผู้ป่วยเบาหวานที่ติดเชื้อ COVID-19 ที่นอนโรงพยาบาล พบว่า การที่มีโรคอ้วนในผู้ป่วยเบาหวาน (BMI >25) เป็นปัจจัยที่เพิ่มอัตราการเสียชีวิตและการใส่ท่อช่วยหายใจในช่วง 1 วันหลังนอนโรงพยาบาล นอกจากนี้ยังพบว่าปัจจัยที่ส่งผลต่อการเสียชีวิต ได้แก่ อายุที่มากขึ้น ประวัติการมีโรคแทรกซ้อนจากเบาหวานที่เกิดกับหลอดเลือด(history of micro and macro vascular complication) และ ภาวะหยุดหายใจขณะหลับ (treated OSA) นอกจากนี้ยังมีการศึกษาอื่นๆ ที่แสดงให้เห็นว่าผู้ป่วยเบาหวานที่มีระดับน้ำตาลสะสมสูง (A1C>7.5) มีอัตราการเสียชีวิตในรพ.มากกว่ากลุ่มที่มีค่าต่ำกว่า (A1C <7.5) อย่างไรก็ดี การคุมน้ำตาลขณะนอนโรงพยาบาลหลังติดเชื้อนั้นมีความสำคัญต่อการดำเนินโรค โดยพบว่ากลุ่มที่คุมน้ำตาลได้ดีน้อยกว่า 180 มีผลจากการรักษาที่ดีกว่ากลุ่มที่น้ำตาลสูงกว่า ไม่ว่าจะเป็นอัตราการเสียชีวิต รวมถึงภาวะแทรกซ้อน เช่น ภาวะหายใจลำบากเฉียบพลัน หรือ ไตวายเฉียบพลัน
สิ่งที่สำคัญนอกจากการป้องกันการติดเชื้อ คือการให้ผู้ป่วยเบาหวานที่มีภาวะเมตาบอลิกซินโดรมเห็นความสำคัญของการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมสุขภาพ ควบคุมน้ำหนักตัว ดูแลรักษาโรคประจำตัว ไม่หยุดยา หรือ การรักษาเอง โดยไม่ปรึกษาแพทย์ หลีกเลี่ยงการมาโรงพยาบาลโดยไม่จำเป็น โดยสามารถเข้ารับการรักษาต่อเนื่องโดยทางโทรศัพท์ (Telemedicine and Connected Health models) ผู้ป่วยเบาหวานควรมีการสำรองยาไว้ใช้ 2-4 สัปดาห์ และควรเฝ้าติดตามการคุมน้ำตาลอย่างใกล้ชิด มีการปรับการรักษาตามเหมาะสมเพื่อให้ได้ระดับน้ำตาลเป้าหมาย
ผู้ป่วยเบาหวานที่ติดเชื้อ ควรจะได้รับการดูแลอย่างใกล้ชิดขณะนอนโรงพยาบาล มีการติดตามระดับน้ำตาลอย่างต่อเนื่อง เฝ้าระวังภาวะแทรกซ้อนจากน้ำตาลสูง (DKA) ส่วนยาลดระดับน้ำตาลที่แนะนำเมื่อน้ำตาลสูงขณะนอนโรงพยาบาล ได้แก่ ยาฉีดอินซูลิน ซึ่งในผู้ป่วยที่มีอาการหนักในหอผู้ป่วยวิกฤต แนะนำให้ยารูปแบบฉีดเข้าเส้นเลือด เพื่อง่ายต่อการดูดซึมและปรับเปลี่ยนได้รวดเร็ว โดยมักจะพบว่าผู้ป่วยเบาหวานที่ติดเชื้อ COVID-19 จะมีการใช้อินซูลินขนาดสูงกว่าทั่วไปได้ ซึ่งจะต้องมีการเฝ้าระวังภาวะโพแทสเซียมต่ำร่วมด้วย เนื่องจากเป็นภาวะที่พบร่วมได้บ่อยในผู้ที่ที่ติดเชื้อ COVID-19 เช่นเดียวกัน การใช้เครื่องวัดระดับน้ำตาลอย่างต่อเนื่อง (Continuous glucose monitoring ,CGM) เป็นอีกทางเลือกหนึ่งในการติดตามน้ำตาลผู้ป่วย เพื่อลดการสัมผัสผู้ป่วย
สำหรับยาเม็ดลดน้ำตาลที่แนะนำให้หยุดเมื่อมีการติดเชื้อ ได้แก่ ยา metformin และ ยากลุ่ม SGLT2I ยา SGLT2I นั้นทำให้มีความเสี่ยงต่อการเกิดภาวะเลือดเป็นกรดร่วมกับคีโตนสูง (DKA) ได้ขณะที่มีการเจ็บป่วย โดยอาจจะเกิดในระดับน้ำตาลไม่สูงได้ (euglycemic DKA) ยาที่พอให้ต่อได้ คือ ยากลุ่ม DPP-4I ส่วนยา GLP-1A ซึ่งเป็นยาฉีดนั้น อาจจะมีผลข้างเคียงเรื่องกินได้น้อย ไม่อยากอาหาร ซึ่งอาจจะเสี่ยงต่อการเกิดภาวะขาดน้ำได้ ขณะที่มีการติดเชื้อ ยาความดันกลุ่ม ACEI , ARB ถึงจะเป็นยาที่เพิ่มระดับของ ACE2 แต่จากการศึกษาต่าง ๆ พบว่า การให้ยานี้ต่อไม่ได้ส่งผลต่อความรุนแรงของการติดเชื้อหรือการเสียชีวิต อีกทั้งจากการศึกษายังพบว่าอาจจะมีประโยชน์กับผู้ป่วยอีกด้วย ปัจจุบันจึงมีคำแนะนำว่าสามารถให้ยากลุ่มนี้ต่อได้ในผู้ป่วยที่เป็น COVID-19 ที่ไม่รุนแรง
ผู้ป่วยเบาหวานชนิดที่ 1 เป็นผู้ป่วยที่ต้องได้รับคำแนะนำอย่างยิ่งยวดให้มีการดูแลตัวเองในช่วงที่มีภาวะเจ็บป่วยอย่างเหมาะสม เพื่อป้องกันการเกิด DKA ควรมีการเฝ้าระวังอาการและมีการติดตามระดับคีโตนในเลือดหรือในปัสสาวะที่บ้าน รวมถึงสามารถเข้าถึงการดูแลรักษาได้อย่างรวดเร็ว ผู้ป่วยที่ได้รับการปลูกถ่ายอวัยวะและได้ยากดภูมิคุ้มกันเป็นผู้ป่วยกลุ่มเสี่ยงเช่นเดียวกัน ในผู้ป่วยที่ปลูกถ่ายตับอ่อนและหยุดใช้อินซูลินแล้ว อาจจะต้องมีการติดตามระดับน้ำตาลหรือกลับมาใช้อินซูลิน หลังจากที่มีการติดเชื้อ
โดยสรุปจะเห็นว่า ผู้ป่วยเบาหวานเป็นกลุ่มเสี่ยงของภาวะแทรกซ้อนจากการติดเชื้อ COVID-19 ทำให้มีอัตราการเสียชีวิตที่มากขึ้น ผู้ป่วยควรทราบวิธีการดูแลตนเองอย่างเหมาะสม รวมถึงให้ความสำคัญกับการป้องกันการติดเชื้อ ในทางการแพทย์การศึกษาเกี่ยวกับ COVID-19 ยังมีมาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งคำแนะนำของการรักษาอาจจะมีการเปลี่ยนแปลง เมื่อมีการศึกษาที่มากขึ้นต่อไป
(SGLT2I : Sodium-glucose co-transporter-2 (SGLT2) inhibitors, DDP4 : dipeptidyl peptidase 4 inhibitors, GLP-1A : Glucagon-like peptide-1 receptor agonists, ACEI/ARB : Angiotensin Converting enzyme inhibitor/ Angiotensin receptor blockers)
Reference
- Roncon L, Zuinb M, Rigatellic G , et al . Diabetic patients with COVID-19 infection are at higher risk of ICU admission and poor short-term outcome, Journal of Clinical Virology 2020; 127
- Vaduganathan M,Vardeny O, Michel T, et al. Renin–Angiotensin–Aldosterone System Inhibitors in Patients with Covid-19 , NEJM 2020; 382: 17
- Bornstein SR, Rubino F, Khunti K, et al. Practical recommendations for the management of diabetes in patients with COVID-19, Lancet Diabetes Endocrinol 2020; 8: 546–50
- Cariou B, Hadjadj S, Wargny M. Phenotypic characteristics and prognosis of inpatients with COVID-19 and diabetes: the CORONADO study, Diabetologia 2020; 63:1500–1515
- The OpenSAFELY Collaborative; Williamson E, Walker AJ, Bhaskaran KJ, et al. OpenSAFELY: factors associated with COVID-19-related hospital death in the linked electronic health records of 17 million adult NHS patients. 7 May 2020 [pre-print]. medRxiv. DOI: 10.1101/2020.05.06.20092999
- Lihua Zhu, Zhi-Gang She, Xu Cheng, et al. Association of Blood Glucose Control and Outcomes in Patients with COVID-19 and Pre-existing Type 2 Diabetes, Cell Metabolism 2020; 31: 1068–1077
- Hartmann-Boyce J,Morris E,Goyder C. Diabetes and COVID-19: Risks, Management, and Learnings From Other National Disasters, Diabetes Care 2020
- European Society of Cardiology. Position statement of the ESC Council on Hypertension on ACE‐inhibitors and angiotensin receptor blockers. Published March 13, 2020
โดย พญ.วิมลศรี รังสีเสนีย์พิทักษ์
อายุรแพทย์ต่อมไร้ท่อและเมตะบอลิสม